ชีวิตต้องคิดเป็น

โดย Admin T
 วันที่ 29 ธ.ค. 2564 เวลา 10:45 น.
 1361

สรุปบทความ FTC Talk
ชีวิต..ต้องคิดเป็น


          รายการ FTC Channel เสาร์ที่ 25 มกราคม 2565  ได้รับเกียรติจากผู้นำในยุคบุกเบิกเริ่มต้นของสหกรณ์ อดีตประธาน FTC  2 สมัย นักธุรกิจแอมเวย์ระดับเพชรบริหารสองผู้สถาปนา คุณสำราญ อุ่นยวง มาเผยเคล็ดลับความสำเร็จของชีวิตทีสร้างด้วยสองมือเปล่า จากติดลบจนเป็นเจ้าของธุรกิจและมีอิสระภาพด้านการเงิน
 
ชีวิตเกิดจากการลงมือทำ

        ส่วนตัวเป็นคนที่มองหาโอกาสอยู่แล้ว ได้เห็นได้ยินได้สัมผัสแล้วคิดว่าจะมีโอกาสได้อย่างไร ชีวิตไม่ได้มีโอกาสมากมายไม่ได้มีต้นทุนอะไร  ครอบครัวยากจนมีพี่น้อง 12 คน  บ้านเกิดอยู่ห่างไกลจากถนนลาดยางที่ 10 กิโลเมตรเดินเท้าเปล่าไปโรงเรียน 6 ปี อำเภอบ้านเกิดมีโรงเรียนชั้นสูงสุด ป.6 ที่บ้านไม่มีทุนส่งเรียน เลยตั้งใจสอบได้ทุนกินอยู่มีเงินเดือน เรียน 1 ปี ฝึกงาน 1 ปี     บ้านพักไม่มีไฟฟ้าจบมามีโอกาสรับราชการที่อนามัย โอกาสแอมเวย์มาจากการไปงานเลี้ยงแล้วเพื่อนที่นั่งโต๊ะเดียวกันรีบกลับเขาบอกไปประชุมธุรกิจแอมเวย์ ผมเลยถามมีรายได้เท่าไหร่เขาบอกมี 20,000 บาท ตัวเองรายได้ 3,200 บาท เลยไม่คิดมาก ตั้งเป้าหมายอยากมีรายได้ 20,000 สมัครแล้วตั้งใจทำจนมีวันนี้

 

สิ่งที่เป็นคุณสมบัติพิเศษที่คิดว่าตัวเองมี
         1. ได้ยิน ได้เห็นได้ฟัง คิดเสมอว่าเป็นโอกาสได้อย่างไร
         2. วิ่งเข้าหา ไม่รอโอกาสวิ่งหา  ไม่กลัวเจ๊ง ไม่กลัวเสียหาย
เมื่อได้ยินโอกาส นำโอกาสนั้นมาวิเคราะห์  ว่าควรหรือไม่ควรเอามาประมวลด้วยสติปัญญามากกว่าเชื่อคนอื่นร้อยเปอร์เซ็นต์
 
เข้ามาเกี่ยวข้องกับ FTC ได้อย่าไร
       สมัยรับราชการ เป็นสมาชิกสหกรณ์สาธารณสุขที่ทำงาน พอลาออกจากราชการก็มาเป็นสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน เพราะพี่สาวเป็นประธานกองทุนบ้าน นำเงินจากรายได้จากธุรกิจแอมเวย์ไปออมจนถือหุ้นมากที่สุด ต่อมาจดทะเบียนเป็นสหกรณ์ประเภทเครดิต ยูเนี่ยน ตนเองออมจนมีเงินก้อนหนึ่ง มีคนมาขายทรัพย์สินเลยใช้เงินกองทุนหมู่บ้านซื้อ เงินไม่พอก็กู้สมทบ
        พอมาเปิดเซ็นเตอร์ ใกล้สำนักงาน FTC โดยรู้ว่าสหกรณ์เปิดให้เช่าทำเซ็นเตอร์ เลยย้ายทีมมาเช่าสถานที่จัดประชุม แล้วมีโอกาสสอบถามหมอวัชราว่าตนเองสมัครเป็นสมาชิกได้ไหม พอรู้ว่าคุณหมอไม่ปิดกั้นเฉพาะองค์กรของตนเอง เลยตัดสินใจสมัครเพราะเคยเป็นสมาชิกสหกรณ์รู้ว่ามีประโยชน์ และชวนทีมงานมาสมัครสมาชิกเพิ่มขึ้น เป็นสมาชิกมา 1 ปี ถูกเสนอชื่อมาช่วยงานสหกรณ์มาเป็นกรรมการก่อน ถัดมาอีก 1 ปี หมอบอกมาช่วยเป็นประธาน ผมเลยถูกสนอชื่อและได้รับคัดเลือก เป็นประธานคณะกรรมการ 2 วาระ
 

ปี 2565 เศรษฐกิจไม่ดี มีโอกาสตกงานสูงเราต้องปรับตัวอย่างไร
        สิ่งจำเป็นสำหรับคนที่ต้องการวางแผนทางการเงิน อย่าประมาทมีรายได้หลายทางเท่าไหร่ยิ่งที่ดีเท่านั้น มีรายได้ทางเดียวเท่ากับประมาท  คนสำเร็จมั่นคงทางการเงินในโลกส่วนใหญ่มีรายได้หลายช่องทางเสมอ ส่วนตัวมีรีสอร์ท ช่วงที่รุ่งเรืองก็มีรายได้ ช่วงโควิดไม่มีเลยแต่ไม่กระทบ เพราะผมไม่ได้ทำงานทางเดียว มีธุรกิจแอมเวย์ มีสวนยาง ฉะนั้นชีวิตจะดีขึ้น ต้องไม่รอ

            1. ไม่ต้องรอมีโอกาสทำเลย ไม่ควรปิดโอกาสตนเอง

            2. แสวงหาโอกาสเพิ่ม

 
ได้เงินมาแล้ว จะทำยังไงให้มั่นคง
          ก่อนมีเงินต้องมีเครื่องมือผลิตเงินให้มีกระแสเงินสดก่อน แล้วนำมารวรวมให้มีเงินสักก้อน เอาเงินไปต่อเงิน ค่าตอบแทนสูงความเสี่ยงสูง ค่าตอบแทนต่ำความเสี่ยงต่ำบาลานซ์ให้ดี หากเกิดอะไรขึ้นจะไม่มีปัญหา แต่ทั้งนี้ต้องวางแผนสร้างงานก่อน

            ”เพราะหากไม่มีเงินไม่ต้องวางแผน เอาเวลาไปหาเงินก่อน”
 
ตกงานมีหนี้ทำยังไง
         คนตกงานเป็นที่ความคิด เพราะงานบางอย่างหมดอายุไปต่อไม่ได้ เหมือนทฤษฎีน้ำเปลี่ยนทิศ ยึดติดว่าเคยมีรายได้จากงานแบบนี้ แล้วนั่งรอว่างานแบบนี้จะมาอีกไหม นั่งรอให้น้ำจะไหลมาไหม จริงๆ น้ำเปลี่ยนทิศไปแล้ว นั่งรอจนตกงาน

            “โอกาสมีอยู่แล้ว อย่ายึดติดเครื่องมือเดิม ออกไปหาโอกาสใหม่ หนึ่งโอกาสหายไป หนึ่งโอกาสก็เกิดใหม่ สิบวิฤติเกิด   อีกสิบโอกาสก็เกิด แล้วแต่มองด้านไหน”

            เช่น ยุคสงคราม มีคนล้มละลายหายนะ แต่พ่อค้าสงครามก็รวย ต้องใช้ปัญญาวิสัยทัศน์ในการมอง
 
อยากเปลี่ยนชีวิตแต่ต้นทุนน้อย โอกาสทางสังคมน้อย ทำอย่างไรดี
          ต้นทุนความสำเร็จ คือต้นทุนความคิดต้องคิดเป็นก่อน ถ้าความคิดผ่าน คิดเป็นทำเป็น คิดได้ทำได้ คิดใหม่ทำใหม่ ความคิดกำหนดพฤติกรรม พฤติกรรมกำหนดนิสัย นิสัยกำหนดความสำเร็จ เปลี่ยนความคิดก่อน เราไม่ได้ทุนน้อย ไม่ได้ยากจน คิดตรงข้ามก่อน เช่น เราไม่ได้จน เราแค่ยังไม่รวย ไม่ใช่เรายังไม่เก่งแต่เรายังทำไม่เป็น ไม่ใช่เราไม่ว่างเราแค่ยังไม่รู้ว่าคุ้มไหม

        “ความคิดกำหนดการกระทำ ถ้าเราบอกเราไม่เก่งเราจะไม่ฝึกฝน ถ้าเราบอกเราจนเราจะงอมืองอเท้า ความคิดกำหนดการกระทำ การกระทำกำหนดนิสัย นิสัยกำหนดบุคลิก บุคคลิกกำหนดชะตา”

           เราจะคือหนึ่ง ในห้า ของคนที่เราคุยด้วยบ่อย เสวนาบ่อย เดินทางด้วยบ่อย เช่น เรามีเพื่อนรวยสี่คน เราจะเป็นคนรวยคน   ที่ห้า ถ้าเราเป็นคนรวยอยู่กับเพื่อนที่จน เราจะเป็นคนจนคนที่ห้า เปลี่ยนคนคบอยู่กับคนคิดเป็น  เราอ่านหนังสือแบบไหนเราเป็นแบบนั้น และสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเราด้วย


               “ความคิดเป็นเช่นไร ชะตาชีวิตจะป็นเช่นนั้น แต่ให้ระวังว่าเราจะเป็นจอมโปรเจก คือคิดแต่ไม่ได้ลงมือทำ”
 

ชะตาชีวิตเป็นไปตามที่เราคิด แต่น้อยคนนักจะรู้ว่าต้องเปลี่ยน 3 อย่างนี้ด้วย

  1. เปลี่ยนพฤติกรรม

  2. เปลี่ยนนิสัย

  3. เปลี่ยนบุคลิก

         ปี 2565 เป็นปีเสือ เราจะเป็นเสือหมอบ เสือกระโดด หรือแมว อยู่ที่เราเลือก Happy New year จะเป็นปีที่ดีได้ถ้าเราเป็น Happy New you